วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554

หนุ่มขาด้วนช้ำรักผูกคอตาย


                สวัสดีครับห่างหายไปนาน สำหรับเรื่องราวที่จะนำเสนอในครั้งนี้คงไม่กล่าวถึงรายละเอียดอะไรมาก เนื่องจากเป็นเรื่องราวที่น่าสงสารปนรันทด และน่าเห็นใจทุกฝ่าย  โดยที่เกิดเหตุอยู่ในห้องเลขที่ 9 ชั้น 3 ของโรงแรมเปรมปรีย์ ซอยยศเส แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. 
ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเข้ามาบอกว่าจะขอเข้ามานอนในห้องหญิงสาวที่อยู่ข้างห้อง แต่หญิงสาวไม่ยอม พร้อมทั้งวิ่งหนีออกจากห้องไป หลังจากนั้นจึงเดินกลับเข้าห้อง แต่ระหว่างที่กำลังจะเปิดประตู ผู้ตายได้เปิดประตูห้องออกมาแล้วคว้ามีดมาข่มขู่ และปาดคางจนได้รับบาดเจ็บ หญิงสาวจึงรีบวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือให้คนในโรงแรมพาส่งโรงพยาบาล จนกระทั่งแพทย์เย็บแผลให้เสร็จก็กลับมาจึงได้รู้ว่าผู้ตายผูกคอตายไปแล้ว โดยพบจดหมายเขียนด้วยลายมือของผู้ตายเขียนข้อความสั้นๆว่า "ขอโทษที่ทำให้โรงแรมต้องเดือดร้อน"   ก็ถือว่ายังรู้สึกผิดนะครับ  แต่ถ้าผมอยู่ห้องข้างๆ ผมคงต้องย้ายออกแล้วล่ะครับ
วันดี คืนดี กลัวจะเจอ บรึ๊ยยย!!!!!

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ขับรถปาดหน้าโดนแทงดับ


                เรื่องนี้เป็นอุทธาหรณ์เตือนสติคนใช้รถทั้งหลายว่าให้มีน้ำใจและใจเย็นๆกันเข้าไว้นะครับ และสำหรับเรื่องนี้จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายมีอาชีพส่งแก๊สหุงต้มอยู่ที่ซอยวิภาวดีรังสิต 16 เพิ่งไปทำบุญที่วัดพระรามเก้า และไปส่งพระลูกวัดที่วัดเทพลีลา ถนนรามคำแหง กำลังจะขับรถกลับบ้านพักซอยวิภาวดีรังสิต 16 โดยมีลูกชายนั่งมาด้วย โดยขับรถมาตามถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ช่วงนั้นเองได้เกิดเหตุขับรถปาดหน้ากันไปมากับรถเก๋งฟอร์ดเฟียสต้า สีแดง ทะเบียนป้ายแดง ษ 9119 กทม. ต่อมารถเก๋งฟอร์ดได้เลี้ยวเข้าถนนประชาอุทิศ แล้วเบรกกะทันหันจนรถตนชนท้ายดังโครม จากนั้นคนขับทั้งสองคันก็ลงมาชกต่อยกัน โดยฝ่ายรถฟอร์ดถือมีดลงมาด้วย และได้กระหน่ำแทงผู้ตายก่อนรีบหลบหนีไป ส่วนผู้ตายได้ถอยกลับมาที่รถและได้เสียชีวิตคา รถเก๋งโตโยตา รุ่นโคโรล่า สีบอร์นเทา หมายเลขทะเบียน ฐล 628 กทม. เบื้องต้นพบว่า คนขับรถฟอร์ด เฟียสต้าคันที่ก่อเหตุ เป็นพนักงานบริษัทประกันภัย และได้ติดต่อเข้ามอบตัวแล้ว กล่าวได้ว่าเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบทำให้หมดอนาคตทั้งสองฝ่าย  และสุดท้ายแล้วรถคันนี้คงไม่มีใครอยากเก็บไว้ใช้ต่อแล้วมั้ง ก็คงต้องขายต่อให้เต๊นท์รถมือสองอีกแล้ว บรื้ออ!!!

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สาวทำแท้ง ตายคารถทัวร์ อาถรรพ์ยกไม่ขึ้น

                            (ขอบคุณภาพข่าวจากไทยรัฐออนไลน์)
                 
              เหตุการณ์เศร้าสลดเรื่องนี้ จากการสอบสวนคนขับรถทัวร์ ได้ให้การว่า เมื่อประมาณ22.00 น. วันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะรถจะออกจากสถานีขนส่งหมอชิต มีผู้หญิงพูดสำเนียงพม่านำหญิงสาวคนนี้ มาส่งขึ้นรถในสภาพอ่อนแรง พร้อมฝากให้ช่วยดูแล โดยอ้างว่า หญิงสาว เพิ่งไปทำแท้งมา แต่เด็กไม่ออก จะไปทำต่อกับหมอพม่าที่ อ.แม่สอด จากนั้นเมื่อเข้ามาใกล้เขต อ.แม่สอด ถึงด่านตรวจบ้านห้วยหินฝน ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก เจ้าหน้าที่ด่านขึ้นมาตรวจผู้โดยสารปรากฏว่า หญิงสาว ซึ่งนอนคลุมผ้าห่มอยู่ปลุกเท่าไรก็ไม่ตื่น จนเปิดผ้าออก จึงทราบว่าหญิงสาวคนนี้เสียชีวิตแล้ว   จากนั้นจึงได้ทำการแจ้งตำรวจให้มาทำการตรวจสอบ  และก็ได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยยกศพผู้ตายออกไปแต่ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดคือทำอย่างไรก็ไม่สามารถนำศพออกจากเบาะได้ โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกคนบอกว่าศพหนักมาก ไม่สามารถยกขึ้นได้ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงก็ยังไร้ผล จนในที่สุดต้องนิมนต์พระสงฆ์ 2 รูป มาทำพิธีสวด จึงสามารถห่อศพและนำลงจากรถมาได้ในสภาพทุลักทุเล  ซึ่งก็ทำให้ผู้โดยสารทุกคนขนลุกไปตามๆกัน สำหรับรถที่เกิดเหตุเป็นของ บริษัทเชิดชัยทัวร์ หมายเลขข้างรถ 956-5 สีฟ้าขาว ทะเบียน 10-1189 ปทุมธานี  ก็น่าแปลกใจเหมือนกันว่าทำไมมักจะเกิดเหตุแบบนี้แถวๆเบาะหลังด้วยนะ อย่างนี้คนขับรถทัวร์จะกล้าขับรถคันนี้คนเดียวตอนกลางคืนมั้ยเนี่ย และก็อยากจะฝากเตือนทุกคนด้วยว่าต่อไปถ้านั่งรถทัวร์คนเดียวก็พยายามสังเกตุคนที่นั่งข้างๆบ้างนะครับว่ามีอาการเป็นอย่างไร มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าจะได้ช่วยเหลือได้ทัน หรือไม่อย่างงั้นจะได้ไหวตัวทันว่าเป็น...หรือเปล่า บรื้อออ!!!!! 

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

หนุ่มวิศวะฯ RBAC เครียด คว้ามีดเชือดคอตัวเองดับคานิรันดร์ ซิตี้ คอนโด


      
     
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่ิอวันที่ 15 เม.ย.'54 ที่ผ่านมา ทางตำรวจ สน.ลาดพร้าว ได้รับแจ้งเหตุผู้เสียชีวิตภายในห้องเลขที่1240/1014 ชั้น2 อาคารอี นิรันดร์ ซิตี้ คอนโดมิเนียม ภายในซอยลาดพร้าว101 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต เป็นนักศึกษาหนุ่มปี 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ เอกวิศวกรรมคอมพิวเตอร์  มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต นอนเสียชีวิตอยู่หน้าห้องน้ำ สภาพศพ นอนคว่ำหน้า ลำตัวโผล่ออกมานอกห้องน้ำ มีคราบเลือดแห้งเกรอะ ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีดำ นอนทับมีดปังตอ สภาพห้องไม่มีร่องร่อยการต่อสู้ พบจดหมายเขียนว่า "ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว เพราะแก็สมันเหม็น"
      จากการสอบสวน รปภ.ของอาคารดังกล่าวให้การว่า ช่วงเช้ามืดวันนี้ ทางร้านขายของชำได้โทรศัพท์เรียกให้ตนไปช่วย เนื่องจากผู้ตายวิ่งเข้ามาซ่อนตัวในร้าน ลักษณะมีอาการหวาดกลัว เมื่อตนไปพบ ทางผู้ตายบอกว่า ห้องข้าง ๆ ได้เจาะผนังแล้วเอาแก็สรมห้องตน พยายามจะฆ่า จึงได้นำทีมรปภ.มาตรวจสอบ พบว่าห้องข้าง ๆ ไม่มีคนอยู่นานแล้ว อีกทั้งที่ห้องผู้ตายก็ไม่มีร่องรอยการถูกเจาะ รวมถึงมิเตอร์ไฟของห้องข้าง ๆ ก็ไม่มีการใช้ไฟ ตนเห็นผู้ตายมีท่าทางหวาดกลัวมาก จึงต้องปลอบและให้ผู้ตายเข้าห้องไปพักผ่อนและมาเสียชีวิตดังกล่าว
               น่าสงสารและเห็นใจ ซึ่งก็ไม่มีใครทราบสาเหตุที่ทำให้เค้าต้องเกิดความเครียดจนต้องมาจบชีวิตแบบนี้ และสุดท้ายนี้ก็หวังไว้เช่นเดิมว่าห้องนี้จะไม่ขายหรือให้ใครเช่าต่อ เพราะอาจจะเครียดกลัวว่าจะโดยรมแก็สเหมือนเจ้าของห้องเดิมก็ได้ บรึ๊ยย!!!

วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ห่างหายไปพักใหญ่ๆ

          สวัสดีครับ ห่างหายกันไปสักพัก ก็ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ เพียงแต่ทำเรื่องเกี่ยวกับแบบนี้มากๆเข้า มันก็ชักหลอนๆ บางเรื่องก็ยิ่งสืบค้นก็ยิ่งน่ากลัว บางทีก็มีไฟดับเองซะงั้น กระผมมันคนกลัวผีครับ ก็เลยขอพักบ้างอะไรบ้าง และก็ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่ได้จากการเป็นอุทธาหรณ์สอนใจในทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ให้แก่ทุกดวงวิญญาณที่ได้นำเรื่องราวมานำเสนอ และสิ่งใดที่ทางกระผม กระทำล่วงเกินไปทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ขอให้อโหสิกรรมต่อกันและกันด้วยเทอญ

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ล่อซื้อยาบ้า ยิงวิสามัญตายคา นนท์ทิพย์คอนโด


                  ดูคลิปตำรวจวิสามัญตามลิงค์ข้างล่าง

                       ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 16 ชั้น บริเวณหน้าลิฟต์ชั้นที่ 11 พบผู้เสียชีวิต 1 ราย ในสภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้น สีน้ำตาล กางเกงยีนส์  มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ ขมับซ้าย ทะลุขมับขวา 1 นัด หน้าอกด้านขวาทะลุสีข้างด้านขวา 1 นัด ต้นแขนขวา 1 นัด เป็นชาย อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นคนร้าย  และภายในห้องพักเลขที่ 358 พบผู้เสียชีวิตอีก 1 รายสภาพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น สีดำ กางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ไหล่ขวา 1 นัดกระสุนฝังใน ต้นขาขวา 2 นัด ต้นขาซ้าย 2 นัด  เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช ซึ่งเป็นเพื่อนของตำรวจ ที่มาช่วยจับคนร้าย 
                       จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลังกันระหว่างตำรวจนครบาล กับ ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมือง นนทบุรี ทำการล่อซื้อยาเสพติดจากแก็งคนร้าย ภายใน นนท์ทิพย์คอนโด หลังสืบทราบว่ามีคนร้ายลักลอบค้ายาเสพติด เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง ห้องเลขที่ 358 ชั้น 11 ซึ่งเป็นที่พักของคนร้าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปเคาะห้องเพื่อที่จะให้เปิดประตู แต่คนร้ายไหวตัวทัน ได้ใช้อาวุธปืนกราดยิงออกมาเพื่อเปิดทางหลบหนี จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย  จึงเป็นสาเหตุให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการวิสามัญคนร้ายขณะที่กราดยิง ใส่ตำรวจเพื่อเปิดทางหลบหนี  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงทำให้ผู้ที่พักอาศัยอยู่ขวัญกระเจิงไม่น้อย และหลังจากนี้หลายคนอาจไม่กล้าเดินกลับห้องคนเดียวตอนดึกๆ กลัวจะเจอใครมายืนตรงทางเดินแต่ไม่มีเงา บรึ๊ยยยย!!!

วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

พี่ชายขี้หวง ตามแทงแฟนน้องสาว ตายคาโรงแรมนางนวล 2

                        เหตุฆ่ากันตายเรื่องนี้เกิดขึ้นภายในโรงแรมนางนวล 2 ท้องที่ ม.9 ต.ควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง หลังแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าตำรวจอีกจำนวนหนึง ที่เกิดเหตุในห้อง 03 โรงแรมนางนวล 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพ เป็นนักศึกษาหนุ่มวิทยาลัยเทคนิคพัทลุง ชั้น ปวช.2 แผนกช่างยนต์ สภาพศพถูกแทงด้วยมีดปลายแหลม บริเวณราวนมซ้าย 1 แผล เสียชีวิตคาห้องพัก
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้มาเปิดห้องพัก เมื่อช่วงเที่ยง ของวันที่ 4 มีนาคม 2554 กับแฟนสาว ที่เพิ่งกลับมาจากกรุงเทพฯ หลังจากนั้น ช่วงค่ำวันเดียวกัน ผู้ตายพร้อมแฟนสาวได้ออกไปเที่ยวผับแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง และได้เจอกับพี่ชาย ของแฟนสาว โดยเกิดอาการเขม่นหึงหวงกัน หลังจากนั้น ผู้ตายพร้อมแฟนได้เดินทางกลับบ้านพัก และขณะนอนหลับ พี่ชายของแฟนได้เรียกให้เปิดประตู ก่อนที่จะจ้วงแทงจนเสียชีวิตดังกล่าว น่าเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะยังมีอนาคตอีกไกลทั้งสองฝ่าย และหากใครอยากจะพาใครไปพักก็เลี่ยงๆห้องนี้หน่อยก็ดีนะครับ บรึ๊อออ!!!

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

หึงโหดขับเก๋งCRV ชนกิ๊กตายคาที่



                        เหตุการณ์นี้เป็นอุทธาหรณ์เตือนใจอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อนักศึกษาหนุ่มจับได้ว่าแฟนสาวของตนแอบไปมีกิ๊ก จึงได้ใช้มีดจี้บังคับให้แฟนสาวโทรไปนัดให้กิ๊กหนุ่มออกมาพบ เมื่อผู้ก่อเหตุขับรถมาถึงที่เกิดเหตุโดยมีแฟนสาวนั่งมาในรถด้วยนั้น เมื่อเห็นผู้ตายซึ่งนั่งคร่อมอยู่ที่รถจยย. จึงได้เร่งความเร็วขับเข้าพุ่งชนอย่างจังจนรถทั้งสองคันตกลงไปอัดก๊อปปี้กับต้นไม้ข้างทาง ทำให้กิ๊กหนุ่มเสียชีวิตคาที่ ส่วนแฟนหนุ่มผู้ก่อเหตุได้ลงจากรถ แล้วโบกมอเตอร์ไค์รับจ้างหลบหนีไป ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีบรอน์เงิน ทะเบียน ฌอ 421 กทม. ตกลงไปข้างทางอัดก๊อปปี้ติดอยู่กับต้นไม้สภาพไม่เสียหายมากเท่าไหร่  ส่วนบริเวณใต้ ท้องรถพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำน้ำเงิน ทะเบียน ลรว 773 กทม. สภาพพังยับใกล้กัน พบศพกิ๊กหนุ่มถูกอัดก๊อปปี่ติดอยู่กับรถ จยย.สภาพกระโหลกศีรษะยุบ ซี่โครงหัก สวมเสื้อยืดคอกลมสีเทา สวมกางเกงยีนต์สีดำ สำหรับรถมอเตอร์ไซค์คงเอาไปใช้ต่อไม่ได้ แต่สำหรับรถcrv เอาไปซ่อมนิดหน่อยก็ใช้ต่อ หรือขายต่อก็ได้สบายๆ แต่ผมคนหนึ่งล่ะคงไม่สบายแน่ๆถ้าเอามาใช้ต่อ กลัวจะมีอะไรติดอยู่ใต้ท้องรถแล้วไม่กล้าก้มลงไปดู กลัวว่าจะเจอ...บรื้อออ!!!

วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

กิ๊กกะสาวเฟสบุ๊ค โดนยิงตายคาร้านเน็ต A&U CAFE

  

        เรื่องนี้เป็นอุทธาหรณ์สำหรับผู้ที่ชอบเล่นเน็ตสื่อรักนะครับ เหตุการณ์นี้เกิดในเวลาตี 5 กว่าในร้าน A&U CAFE ตั้งอยู่เลขที่ 1217 ถนนเทอดไทย ปากซอย 29 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม. ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น จำนวน 1 คูหา ชั้นล่างเปิดเป็นร้านเกมส์และอินเตอร์เน็ตคาเฟ่  ผู้ตายเป็นพนักงานดูแลร้าน ซึ่งเพิ่งบวชสึกมาได้ไม่นานและเพิ่งกลับมาทำงานได้เพียง 15 วัน โดยผู้ตายได้รู้จักกับหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันคนหนึ่งผ่านทาง Facebook ซึ่งหญิงคนดังกล่าวมักจะเข้ามานั่งเล่นอินเตอร์เนตที่ร้านเป็นประจำ และมักจะพูดคุยกับผู้ตาย ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายถามหญิงคนดังกล่าวว่ามีแฟนหรือยัง ซึ่งทางหญิงคนดังกล่าวบอกว่าเคยมี แต่เลิกกันแล้ว ต่อมาได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 5-6 คน มาหา  เข้ามาต่อว่าทำนองว่า หญิงคนที่ผู้ตายติดพันอยู่ มีสามีแล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบไปตามตรงว่าไม่รู้  และมีการขี่มอเตอร์ไซค์วนเวียนข่มขู่ แต่ผู้ตายได้แจ้งให้ตำรวจมาดูทำให้กลุ่มวัยรุ่นสลายตัวไป หลังจากนั้นไม่นานก็มีการกลับมาทำร้ายโดย คนร้ายบุกเข้ามาคนเดียวและได้ใช้ปืนลูกโม่ยิงผู้ตายซึ่งนั่งอยู่หลังเคาท์เตอร์ที่ศรีษะและใบหน้าหลายนัดจนเสียชีวิต ต่อหน้าต่อตาลูกค้าคนอื่นๆในร้านซึ่งตะลึง งุนงง และตกใจ (แต่บางคนหลับ) กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ก็คงต้องแสดงความเสียใจและเตือนไว้สำหรับผู้ที่ชอบใช้บริการร้านอินเตอร์เน็ตตอนกลางคืนคนเดียวว่าอย่าเผลอหลับ เพราะตื่นมาอาจจะ บรื๊ออออ!!!!!                      


วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2554

น.ศ.สาว ม.กรุงเทพ โดดตึก ลุมพินีเซ็นเตอร์คอนโดมิเนียม ซ.สุขุมวิท 77

    
              เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์นักศึกษาสาวปี 3 ม.กรุงเทพ มีปัญหาความรักกับชายหนุ่ม จึงคิดสั้นจบชีวิตตนเองโดยการโดดตึก ที่เกิดเหตุเป็นลานจอดรถอาคารโซนซี  สภาพศพสวมชุดนอนสีชมพู นอนคว่ำจมกองเลือดอยู่กับพื้นถนน ที่ข้อมือด้านซ้ายมีรอยกรีดด้วยของมีคมหลายแผล ซึ่งผู้ตายพักอยู่ที่ห้องพักเลขที่ 577/171 ชั้น 9 เจ้าหน้าที่จึงขึ้นไปตรวจพบว่าทุกอย่างเป็นปกติ ไม่มีใครอยู่ในห้อง ไม่มีร่องรอยการรื้อค้นหรือต่อสู้แต่อย่างใด พบเพียงสมุดไดอารี่คาดว่าเป็นลายมือของผู้ตายวางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง เนื้อหามีใจความเขียนบรรยายถึงความรักความในใจ ก็ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของเธอด้วย และหวังว่าห้องนี้คงไม่ถูกขายหรือให้เช่าต่อนะ บรื้อออ!!!!

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

นักศึกษาดิ่งตึกดับ ห้องพักเลขที่ 40 ชั้น 4


เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องของนักศึกษาสถาบันพาณิชย์แห่งหนึ่ง อายุ19 ปี ได้โดดตึกฆ่าตัวตายโดยได้เขียนจดหมายระบายความในใจจำนวนหลายแผ่น ถึงแฟนหนุ่มที่คบกันมา ซึ่งทราบภายหลังว่าฝ่ายชายมีภรรยาอยู่แล้ว จึงเกิดความเครียดเลยตัดสินใจกระโดดตึก ฆ่าตัวตาย เพื่อหนีปัญหา และโดดลงมาจากห้องพักเลขที่ 40 ชั้น 4  ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ที่เปิดกิจการห้องพักแบ่งให้เช่า สูง 4 ชั้น ปลูกติดกัน 5 คูหา เลขที่ 116/77 ซ.นนทรี 12  เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องสั้นๆ แต่คงสร้างความเสียใจ และเป็นอุทธาหรณ์ ให้คนที่ยังอยู่ไปอีกนาน รวมทั้งคนที่จะมาเช่าห้องต่อคนต่อไปด้วย บรื้ออออ!!!!!

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

ชายคลั่งโดนวิสามัญตายคาแคมรี่


         
         เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ไปทั้งเมือง เป็นเหตุการณ์คนร้ายเป็นชายได้ขับรถมาและลงไปสอบถามเส้นทางกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อม ก่อนจะลงมือใช้อาวุธมีดไล่แทงเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแย่งอาวุธปืน และยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจจนเสียชีวิต จากนั้นได้ขับรถหลบหนีไปยังบริเวณแยกศรีอยุธยา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจของสน.สามแสน ขับรถไล่ติดตามเมื่อเพื่อจะจับกุม ขณะเดียวกัน ได้มีแท๊กซี่สีชมพูของสหกรณ์ปทุมวัน หมายเลขทะเบียน ทว 3087 ทราบชื่อคนขับต่อมาคือ นายอำนาจ ดวงสูงเนิน พลเมืองดี ได้ขับรถเข้าขวางหน้ารถคนร้าย ปรากฎว่าคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เข้าที่บิเวณประตูด้านขวา ทำให้กระสุนปืนเจาะเข้าที่ศรีษะ ขณะเกิดเหตุผู้โดยสารซึ่งเป็นชาวต่างชาติได้วิ่งหลบหนีลงจากรถ
         ต่อมารถยนต์เก๋ง
ตโยต้า คัมรี่ ทะเบียน ฌส 131 สีบอร์นเงิน
ของแพทย์หญิงประจำโรงพยาบาลราชวิถี ที่ขับผ่านมาบริเวณที่เกิดเหตุพอดี คนร้ายจึงเข้าใช้อาวุธปืนจี้แพทย์หญิงคนดังกว่าเป็นตัวประกัน ก่อนจะขับรถหลบหนี มาทางแยกพญาไท ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.พญาไท สกัดจับอยู่ แต่คนร้ายได้พุ่งเข้าชนตำรวจจนบาดเจ็บสาหัส แล้วขับรถหลบหนีมุ่งตรงเข้าอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับวิสามันบริเวณหน้าสถาบันโรคหัวใจ กระหน่ำยิงเข้าใส่รถของคนร้าย เป็นเหตุให้เสียชีวิตคาที่ ส่วนแพทย์หญิงที่ถูกจับเป็นตัวประกันก็ถูกลูกหลงจากกระสุนปืนหลายนัด ขณะนี้บาดเจ็บสาหัสรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลราชวิถี

         ก็ขอแสดงความเสียใจต่อผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยเฉพาะแท็กซี่พลเมืองดีท่านนั้นซึ่งขณะนี้ทางครอบครัวก็ได้รับความช่วยเหลือบ้างแล้ว ส่วนทางด้านคุณหมอก็ได้รับการปลอบใจโดยเปลี่ยนรถคันใหม่ให้แล้ว ส่วนแคมรี่คันเก่าก็คงต้องลุ้นกันว่าใครจะใช้ต่อไปมีคนขับให้ฟรี และรถแท็กซี่ซึ่งไม่ได้เสียหายอะไรมากก็คงนำไปให้เช่าขับกันต่อไป ขับกะกลางวันอาจไม่เท่าไหร่แต่กะกลางคืน ก็คง บรื้อออ!!!

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554

ฆ่าหมกศพในแท๊งค์น้ำหอพัก


           

               จากคดีสยองขวัญปนคลื่นเหียนอาเจียน จนมีผู้นำมาสร้างเป็นภาพยนต์ ตายโหง กรณีพบศพสาววัยรุ่นสวมเสื้อสายเดี่ยว กางเกงลายพรางทหารขาสั้น ถูกฆาตรกรรมอำพรางใช้ของแข็งทุบหัวและรัดคอ นำศพห่อหุ้มด้วยถุงดำหมกในถังน้ำขนาด 2,000 ลิตร บนดาดฟ้าของหอพักพัชรินทร์ ตั้งอยู่เลขที่ 82/286 ซอยไทยธานี 31/2 หมู่ 9 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และจากศพที่เน่าเหม็นทำให้คนในหอพักพากันใช้น้ำที่มีกลิ่นเน่าเหม็นผิดปกติ กระทั่งขึ้นไปตรวจสอบในถังน้ำถึงกับผงะเพราะเจอศพขึ้นอืดกลิ่นโชยตลบในถังน้ำที่ชาวหอต่างนำมาใช้อาบ ล้างหน้า แปรงฟันบางคนนำมาหุงข้าวกินโดยไม่ทราบมาก่อนว่ากลิ่นเหม็นของน้ำเป็นน้ำแช่ศพเน่า พอมารู้ภายหลังหลายคนถึงกับอาเจียนไปตามๆกัน ขณะเดียวกันคนที่พักในหอพากันอพยพย้ายไปอยู่ที่ใหม่หลายสิบห้อง เนื่องจากเข็ดขยาดกับน้ำในหอและหวาดผวาวิญญาณผีเฮี้ยนของสาวเหยื่อฆาตรกรรม     หลังจากจับฆาตกรได้แล้ว จากการสอบสวนสืบสวนทำให้ทราบว่า หญิงสาวคนดังกล่าวนั้นเป็นพนักงานของร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งย่าน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยฆาตรกรก่อเหตุลงมือฆ่าแล้วยัดศพอำพรางคดี โดยสาเหตุตามที่ผู้ต้องหารับสารภาพนั้นทราบว่าเนื่องมาจากผู้ตายนั้นขโมยยาบ้าไป 20 เม็ดทำให้บันดาลโทสะจนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
               ซึ่งภายหลังทางหอพักได้ให้คนงานรื้อถังน้ำอันเก่าทั้ง 2 ใบออก แล้วซื้อของใหม่มาแทนแล้ว รวมทั้งรื้อระบบท่อประปาทั้งหมดและมีการทำบุญหอเพื่ออุทิศ ส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้วเพื่อความเป็นสิริมงคล และเรียกขวัญผู้ที่ยังพักอยู่ต่อไป อ้อ!! แหล่งข่าวบอกว่าห้องที่เกิดเหตุฆาตรกรรมคือห้อง 31 หวังว่าห้องนี้คงไม่เปิดให้เช่าต่อนะ บรึ๊ยยยย!!!!!


 

        เรื่องนี้เกิดเหตุภายในปั๊มน้ำมันเชลล์ หน้าร้านสะดวดซื้อ ซีเล็ค พบรถเบนซ์รุ่น E220 สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ธท 5517 กรุงเทพมหานคร สภาพศพอยู่ในท่านั่ง สวมชุดเครื่องแบบครึ่งท่อน ใช้อาวุธปืน11มม.ยิงเข้าที่ขมับซ้ายทะลุขวา ที่มือซ้ายพบปืน ขนาด 11 มม. โดยตำแหน่งเกียร์ออโตอยู่ที่ตำแหน่ง  P พบแผ่นกระดาษ 1 แผ่น ระบุข้อความว่า "ผมแค่เป็นโรคเครียด" นอกจากนี้ยังพบหัวกระสุนขนาด 11 มม.ติดอยู่ที่บริเวณขอบประตูหลังขวา และเบาะหลังแขวนเสื้อตำรวจ ก็ขอไว้อาลัยให้นายตำรวจท่านนี้ด้วย  และสำหรับคนที่ชอบรถเบนซ์ก็ดูดีๆนะ ระวังจะโดนตำรวจจับในรถ บรื้อออ!!!!

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

ยิงโหดเซียนพระคาเก๋ง


                   เซียนพระรายนี้ ถูกคนร้ายกระหน่ำยิงด้วยปืน 11 มม. 7 นัดซ้อน ระหว่างจอดรถอยู่ปากซอยรังสิต-นครนายก33 ภายในรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นอีคาร์ สีแดง ทะเบียน กฉ 3687 นครปฐม เสียชีวิตคาที่ ตร.คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องขัดแย้งธุรกิจพระเครื่อง  ถ้าใครจะซื้อรถมือสองแล้วคนขายบอกว่าเจ้าของเก่าเป็นเซียนพระ ก็ดูให้ดีๆล่ะกันนะครับว่าเซียนพระยังอยู่อ่ะป่าว ถ้าขืนซื้อไปใช้ต่อ ถึงคุณจะมีพระแขวนไว้เค้าก็ไม่กลัวเพราะเค้าเป็นเซียนพระ บรื้อออ!!!!!!

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

ลวง-ฆ่าเปลือย ม่ายหมกม่านรูด

เหตุเกิดในโรงแรมม่านรูดซีไซด์พาเลส ถนนบางแสนสาย 4 ใต้ ภายในห้องพักหมายเลข 49 อ.เมืองชลบุรี คาดว่าผู้ตายโดนแฟนใหม่ฆ่าตาย  ใครที่อยากชวนแฟนไปวี๊ดวิ้วแถวนั้นต้องดูห้องให้ดีๆนะจ๊ะ แต่ถ้าไม่สนใจก็ไม่เป็นไร แต่ระวังจะบรื้อ!!!!!

เดวิด คาราดีน ฆ่าตัวตายในโรงแรมปาร์คนายเลิศ

เดวิด คาร์ราดีน(David Carrdine) พระเอกฮอลลีวู้ดชื่อดังวัยดึก ผูกคอตายพิสดารในโรงแรมปาร์คนายเลิศ ถนนวิทยุ ในห้องสวีท หมายเลข352 ชั้น3 โดยพบใช้เชือกผ้าม่านผูกคอในลักษณะกึ่งนั่งกึ่งนอน เปลือยกายอยู่ในตู้เสื้อผ้า และจากการพิสูจน์ศพพบว่าเขาใช้เชือกรองเท้ามัดอวัยวะเพศโยงรัดเข้ากับคอของตัวเอง ใครที่อยากลองของและชื่นชอบดาราฮอลลีวูดก็เชิญได้นะครับ แหม..แค่คิดคิดก็หนาวแว้วว บรื้อออ!!!

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

ปอร์เช่สยองชนสาวขาด2ท่อน

รถเก๋งยี่ห้อ ปอร์เช่ ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน ง 1352 กรุงเทพมหานคร คันนี้ชนผู้หญิงต่างด้าวตายตัวขาดสองท่อน ท่อนบนทะลุกระจกหน้าตกลงบนเบาะหน้า ส่วนท่อนล่างกระเด็นตกไปข้างทาง     ตอนนี้เป็นป้ายแดง!! พอเปลี่ยนเป็นป้ายธรรมดาก็ม่ะรู้แล้วว่าเป็นคันไหน  รถคันนี้ใครใช้ต่อสยองแทน บรื๊ออออ!!!! 

แนะนำตัวกันก่อน

กระผมเป็นคนที่กลัวผีมากคนหนึ่งมาตั้งแต่เด็ก นับตั้งแต่จำความได้ผมก็กลัวแล้ว ไม่รู้เป็นเพราะอะไร จะเดินไปทิ้งขยะกลางคืนคนเดียวก็กลัว เข้าห้องน้ำก็กลัว นอนคนเดียวก็กลัว ยิ่งถ้าไปต่างจังหวัดหรือนอนที่อื่นยิ่งน่ากลัว ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงที่ที่ผีอยู่ หรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับผี  ผมจึงต้องบันทึกมันเอาไว้ไม่ใช่เพื่อหลบหลู่แต่เพื่อหลีกหนี.....เอ๊ะ! หรือว่าใครอยากจะลองก็ไม่ว่านะ แค่คิดก้อ บรื้ออออ!!!!!!